ความแข็งและความหนาของยาง
เป็นปัจจัยสำคัญที่แตกต่างออกไปแต่ละการใช้งาน ความแข็งควรมีค่าสม่ำเสมอตลอดทั้งความยาวของลูกกลิ้ง โดยทั่วไปความแข็งของลูกกลิ้งยางจะอยู่ระหว่าง 30-85 shore A และความหนาประมาณ 10-35 mm แต่บางการใช้งาน เช่น การพิมพ์ อาจต้องการความแข็งต่ำถึง 15 shore A หรือการใช้งานเพื่อเป็นแผ่นม้วนสำหรับเครื่องพิมพ์ดีด ต้องการความแข็งที่สูงกว่า 90 shore
ความทนทานต่อสารเคมีและน้ำมัน
ยางแต่ละชนิดมีความทนทานต่อสารเคมีแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างทางเคมีของยางนั้นๆ การเลือกชนิดที่ทนต่อสารเคมีที่ต้องสัมผัสช่วยลดปัญหาเรื่องการบวม และการเสื่อมสภาพของลูกกลิ้งก่อนเวลาอันควร นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาเรื่องสารปนเปื้อนหรือตกค้างในผลิตภัณฑ์อีกด้วย
ความทนทานต่ออุณหภูมิ
ยางแต่ละชนิดมีช่วงอุณหภูมิการใช้งานที่แตกต่างกัน อาทิเช่น สำหรับการใช้งานที่ต้องทนความร้อนสูง ควรเลือกใช้ยางซิลิโคนเกรด QH สามารถทนความร้อนสูงสุด +315oC หรือแม้แต่การนำลูกกลิ้งยางที่ใช้งานที่อุณหภูมิต่ำต่อเนื่อง หรือมีน้ำหล่อเย็นอุณหภูมิต่ำ อาทิเช่น ลูกกลิ้งยางปอกเปลือกกุ้ง ที่ต้องสัมผัสน้ำเย็นตลอดเวลา หากลูกกลิ้งยางไม่ทนอุณหภูมิต่ำ ทำให้ลูกกลิ้งยางมีความแข็งเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีแรงฉุดลดลง ไม่สามารถดึงเปลือกกุ้ง หรือไม่สามารถปอกเปลือกกุ้งได้ ดังนั้นอุณหภูมิการใช้งานจึงมีผลต่อการเลือกลูกกลิ้งยาง
คุณสมบัติทางกายภาพ
เช่น ความทนทานต่อการขัดถู การฉีกขาดก็มีความสำคัญกับการเลือกใช้งานจึงต้องคำนึงถึงแรงที่กดลงบนลูกกลิ้งและวัสดุที่มาสัมผัส
คุณสมบัติพิเศษเฉพาะทาง
เช่นลูกกลิ้งยางนำไฟฟ้า , ลูกกลิ้งกันไฟฟ้าสถิตESD , ลูกกลิ้งยางฟู้ดเกรด , ลูกกลิ้งยางกันลามไฟ เป็นต้น นอกจากเลือกชนิดของยางได้เหมาะสมแล้วต้องมีการออกแบบสูตรการผลิตเพื่อให้เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานเฉพาะทางอีกด้วย
หากคุณต้องการปรึกษา-รับบริการหล่อลูกกลิ้งยาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แบรนด์ HyperRoller
ติดต่อขอราคาด่วน LINE ID : @PTIRUBBER.
Tel: 022577154. MB : 0863077319
Email: info@ptigroups.com.
HyperRoller By Polytech Industry company Limited

ใส่ความเห็น